เชือดก่อนชิม Meat Grinder
เรื่องย่อ
บุษ เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อสูตรโบราณต้องรับภาระหนักทำงานหาเลี้ยงครอบครัว เพื่อเลี้ยงดู น้องบัว น้องสาวต่างวัยที่มีขาพิการเพียงลำพัง เมื่อใครๆถามถึง ประวิทย์ สามีที่ไม่ค่อยเอาถ่าน เธอก็จะตอบว่าประวิทย์หนีไปกับ อ้อย ลูกจ้างในร้านตั้งนานแล้ว
ทุกครั้งที่บุษกดดัน เธอมักจะหาทางออกด้วยการมุดหัวดำลงไปในโอ่งน้ำ แล้วตะโกนเพื่อระบายความเก็บกด แต่กลายเป็นว่า เธอกลับได้ยินเสียงอู้อี้เหมือนคนพูดคุยกันผ่านเข้าไปในหูของเธอ จากนั้นมาเธอมักจะได้ยินเสียงแปลกๆกระซิบอยู่ข้างหูสั่งให้ทำโน่นทำนี่อยู่ เสมอ
วันหนึ่งระหว่างมีการชุมนุมประท้วงของกลุ่มนักศึกษา บุษกำลังเข็นรถก๋วยเตี๋ยวขายอยู่พอดี เมื่อมีการใช้กำลังทหารเข้าสลายการชุมนุม เกิดความโกลาหลขึ้น อรรถพล ก็วิ่งเข้ามาช่วยบุษให้วิ่งหนีไปได้ทันท่วงที ทำให้ทั้งสองคนได้รู้จักกันเป็นครั้งแรก
เย็นวันนั้นตอนเก็บรถเข็นเข้าหลังร้าน เธอถึงได้รู้ว่ามีใครคนหนึ่งแอบอยู่ในรถเข็น แต่รอยกระสุนที่ผ่านทะลุเข้าไปได้ ทำให้ชายคนนั้นเสียชีวิตไปนานแล้ว บุษมองดูร่างไร้วิญญาณของชายคนนั้น และจัดการแล่เนื้อหมักสมุนไพรตามสูตรโบราณของครอบครัว จากนั้นมาลูกค้าต่างร่ำลือถึงรสชาติที่เอร็ดอร่อย ทำให้กิจการของเธอเติบโตขายดิบขายดี ลูกค้าคนสำคัญคนนึงของร้านก็คือ อรรถพล คนที่คอยเห็นอกเห็นใจเธออยู่ตลอด
แต่เสียงกระซิบของร่างเด็กสาวผมยาวยังคงมีอิทธิพลกับการใช้ชีวิตของบุษเสมอ ทำยังไงก็ไม่สามารถสลัดทิ้งออกจากหัวได้ เธอเริ่มคิดค้นสูตรก๋วยเตี๋ยวใหม่ๆ จากเนื้อคนที่เธอหลอกเอามาฆ่าทีละคนๆอย่างแนบเนียน
บุษเริ่มปันใจให้อรรถพลจากความดีที่เขาแสดงออกต่อเธอ ความสัมพันธ์ของบุษกับอรรถพลก่อตัวจนสุขงอมและยอมมอบกายให้กับเขา แต่เมื่ออรรถพลเริ่มถลำตัวก็ยิ่งมองเห็นด้านมืดอันน่ากลัวของบุษเข้า เขาจึงพยายามหลบหน้าบุษและหันไปคบกับ นิดา นักศึกษาสาวรุ่นน้องที่มหาวิทยาลัย จนเธอเกิดอาการหึงหวงจนถึงขั้นวิกลจริต วางแผนลวงให้นิดาเข้ามาในร้านก๋วยเตี๋ยวของเธอ และจับขังทรมานไว้ในห้องใต้ดิน
นิดาได้พบว่า ประวิทย์กับอ้อยถูกขังอยู่ในห้องนั้น ประวิทย์ยังมีชีวิตอยู่แบบครึ่งคนครึ่งสัตว์ เขามีชีวิตอยู่ได้จากการแทะกินศพของอ้อยที่นอนตายอยู่ข้างๆ
แต่เมื่ออรรถพลรู้ว่านิดาโดนบุษหลอกไป เขาก็เร่งรีบตามมาช่วยเหลือ บุษจึงรีบหลบหนีออกจากที่นั่นอย่างเจ็บแค้นใจ เธอวิ่งไปอย่างคลุ้มคลั่ง โดยไม่หันกลับมามองอีกเลย และสุดท้ายเธอก็ได้เลือกทางออกสำหรับตัวเอง เพื่อจบบทสรุปสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง
No comments:
Post a Comment